Skip to main content

หัวใจล้มเหลว

หัวใจล้มเหลว ก็คือหัวใจไม่สามารถ
สูบฉีดเลือดแดง ไปเลี้ยงยังส่วนต่าง ๆ​ของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง​ส่งผลต่ออวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย โดยปกติแล้วหัวใจล้มเหลวอาจเกิดขึ้นและมีผลกระทบเฉพาะหัวใจซีกขวา หรือเฉพาะซีกซ้ายก็ได้ แต่โดยส่วนมากแล้วโรคหัวใจล้มเหลวมักจะมีผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจทั้งสองด้าน 
1. Systolic Heart​ Failure
ภาวะกล้ามเนื้อห้วใจมีความผิดปกติ​สูบฉีด​ (contraction or inotropy) เลือดออกจากหัวใจ​ห้องล่างได้​ ส่งผลให้ปริมาณเลือด​ออก​ไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายลดลง​ ภาวะนี้มักเรียกว่า​ systolic dysfunction จะมีค่า​ EF :  ejection fraction < 40 %  ถ้า​ EF​ : 40-60​ mid systolic dysfunction
2. Diastolic Heart Failure
ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจมีความผิดปกติ​ของการคลายตัว​ (relaxation​ or lusitropy)  ส่งผลให้เลือดกลับเข้าสู่หัวใจห้องล่างซ้ายได้น้อย​ (preload  or  ventricular filling)
พยาธิสรีรวิทยา(Pathophysiology) 
ภาวะหัวใจล้มเหลวเกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจ​
ลดประสิทธิภาพจากความเสียหายหรือ
การบรรจุเกินพิกัด เมื่อเวลาผ่านไปจะเกิด
การกระตุ้นของระบบ neurohormonal เช่น
ระบบ renin-angiotensinนำไปสู่พังผืด​, 
ห้องขยายและการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง
ในหัวใจห้องซ้ายล่างจากรูปทรงไข่เป็น
รูปทรงกลม
ในภาวะหัวใจล้มเหลวกลไกนี้จะล้มเหลวเนื่องจากช่องหัวใจเต็มไปด้วยเลือดจนถึง
จุดที่กล้ามเนื้อหัวใจหดตัวมีประสิทธิภาพ
ลดลง นี่คือสาเหตุที่ลดความสามารถในการ cross-link actinและเส้นใย​
 myosin  ในกล้ามเนื้อหัวใจยืดเกินไป

สัญญาณ​หัวใจล้มเหลว
1. กล้ามเนื้อหัวใจ​
 1.1​ Ischemic heart disease
     Ischemia คือการไหลเวียนของเลือด 
 และออกซิเจน​ ที่ถูกจำกัด หรือลดลงใน
 ร่างกาย Cardiac ischemia  เป็นชื่อเรียกการ
 ไหลเวียนที่ลดลงของ(เลือดและออกซิเจน)​ 
 ไปยังกล้ามเนื้อหัวใจ
Ischemic heart disease :
     เกิดจากหลอดเลือดหัวใจตีบ เมื่อเส้นเลือด
  ตีบตัน(เลือดและออกซิเจน)​ก็จะไปถึงกล้าม
  เนื้อหัวใจน้อยลง​ เนื่องจากสูญเสีย​เซลล์​
  กล้ามเนื้อ​หัวใจ​ (myocardial infarction) 
  มักเกิด​ systolic heart failure มากกว่า
  Diastolic heart failure
 1.2​ Cardiomyopathies
   ที่ไม่ได้เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจ​ขาดเลือด
  1.2.1 Dilated Cardiomyopathy
      หัวใจห้องล่างซ้ายใหญ่ขึ้น​และผนังผอม
      ความหนาลดลง​ จึงทำให้แรงบีบตัวลดลง​ 
      ทำให้เกิด​ systolic heart failure
    (afterload เพิ่มขึ้น, stroke volume ลด)​
Left bundle branch block (LBBB) 
     (more frequent) 
     V1​ = rS, V6 = R​
● intraventricular conduction 
     disturbance (IVCD) 
 right bundle branch block (RBBB)
     (less frequent).
     V1​= rSR, V6= qRs
 Left atrial abnormality, biatrial
     abnormality: due to increased 
    ventricular end-diastolic pressure
    and the resultant atrial dilatation.
 Abnormal Q waves (pseudoinfarction pattern): due to myocardial fibrosis.
● Poor R wave progression (prwp)​
     in chest leads.
 R wave is less than 2–4 mm
 in leads V3 or V4 and/or
 there is presence of a reversed 
 R wave progression, 
 which is defined as
 R in V4 < R in V3 or 
 R in V3 < R in V2 or
 R in V2 < R in V1, or
 any combination of these
 Nonspecific ST segment depression.       Widespread T wave negativity
  Sinus tachycardia: due to increased 
     sympathetic activity in heart failure.
 Supraventricular arrhythmias
     (atrial fibrillation, etc.)


  1.2.2 Hypertrophic Cardiomyopathy
     ผนังหัวใจ​ห้อง​ล่างซ้ายมีความหนาแบบ
     ผิดรูป​แบบไม่มีความยึดหยุ่นทำให้การ
     คลายตัวผิดปกติ​ ทำให้เกิด​ 
     Diastolic​ heart failure 
  1.2.3 Restrictive Cardiomyopathy
     ไม่พบความผิดปกติ​ของห้องหัวใจแต่
     พบว่าความยึดหยุ่น​และการคลายตัว
     ลดลง​ ทำให้เกิด​ Diastolic​ heart failure